Mousai Wellness Center

ORGAN-PEPTIDE THERAPY

Organ-peptide therapy

Organ-peptide therapy หรือการบำบัดด้วยเปปไทด์จากอวัยวะ เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการการแพทย์ ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะในแวดวงการแพทย์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ (anti-aging)

Organ-peptide therapy เป็นเปปไทด์สายสั้นๆ ของกรดอะมิโน (โมเลกุลที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน) ที่สกัดมาจากอวัยวะต่างๆ ของสัตว์ มักเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว แกะ หรือหมู เพื่อนำมาใช้ในการกระตุ้นการทำงานและฟื้นฟูเซลล์และอวัยวะที่เสื่อมสภาพในร่างกายมนุษย์

การใช้สารสกัดจากอวัยวะสัตว์เพื่อนำมารักษาโรคนั้น มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่การพัฒนาเริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียชื่อ Vladimir Filatov และต่อมาในปี 1931 แพทย์ชาวสวิสชื่อ Paul Niehans ได้พัฒนาวิธีการรักษาโดยใช้เซลล์สดจากอวัยวะของสัตว์ฉีดเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ เรียกว่า “cell therapy” 

การรักษาแบบดั้งเดิมนี้มีความเสี่ยงสูงและไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างแม่นยำ จึงนำไปสู่การพัฒนา organ-peptide therapy ในรูปแบบปัจจุบัน ซึ่งใช้เทคโนโลยีการสกัดที่ทันสมัยเพื่อแยกเปปไทด์เฉพาะที่มีประโยชน์ออกมา ทำให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประโยชน์ของ Organ-peptide therapy

การฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อ :

เปปไทด์จากอวัยวะต่างๆ สามารถช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ โดยเฉพาะในอวัยวะที่มีการเสื่อมถอยตามวัย เช่น สมอง หัวใจ ตับ และผิวหนัง เปปไทด์เหล่านี้อาจช่วยเพิ่มการสร้างเซลล์ใหม่ (cell regeneration) และลดอัตราการตายของเซลล์ (apoptosis) ที่เพิ่มขึ้นตามอายุ

การฟื้นฟูบำรุงผิวพรรณ :

เปปไทด์บางชนิด โดยเฉพาะที่สกัดจากผิวหนังหรือกระดูกอ่อน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ที่ลดลงตามอายุ ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ตึงกระชับ ลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และช่วยในการซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากแสงแดดและมลภาวะ

การปรับสมดุลฮอร์โมน :

ฮอร์โมนหลายชนิดในร่างกายลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น ฮอร์โมนเพศ โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) เทสโทสเตอโรน (Testosterone) เอสโตรเจน (Estrogen) ฮอร์โมนการเจริญเติบโต และฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ เปปไทด์จากต่อมไร้ท่อต่างๆ อาจช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเหล่านี้หรือเพิ่มความไวของเซลล์ต่อฮอร์โมน ช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อการชะลอวัยในหลายด้าน เช่น การรักษามวลกล้ามเนื้อ การควบคุมน้ำหนัก และการรักษาความหนาแน่นของกระดูก

การเพิ่มพลังงานและการทำงานของเซลล์ :

เปปไทด์บางชนิด โดยเฉพาะที่สกัดจากตับหรือสมอง สามารถกระตุ้นการทำงานของไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานของเซลล์ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานในระดับเซลล์นี้ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น ลดความเหนื่อยล้า และเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า

การต้านอนุมูลอิสระ :

เปปไทด์หลายชนิดมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพของเซลล์ตามวัย การลดความเสียหายนี้ช่วยชะลอกระบวนการแก่ของเซลล์และเนื้อเยื่อ

การปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน :

เปปไทด์จากต่อมไทมัสหรือม้ามอาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอลงตามอายุ การรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงช่วยป้องกันโรคติดเชื้อและโรคเรื้อรังต่างๆ ที่พบบ่อยในวัยสูงอายุ

การปรับปรุงการไหลเวียนเลือด :

เปปไทด์บางชนิดช่วยปรับปรุงการไหลเวียนเลือด โดยการขยายหลอดเลือดหรือเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้นช่วยให้อวัยวะต่างๆ ได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ผิวพรรณดูสดใส และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

การปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ :

เปปไทด์บางชนิด โดยเฉพาะที่สกัดจากสมอง อาจช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น เมลาโทนิน การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายและชะลอวัย

เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ :

เปปไทด์จากกล้ามเนื้อ (Muscle peptides) ช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ รักษาและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ที่มักจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ