Mousai Wellness Center

8 ข้อน่ารู้ เกี่ยวกับคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy)

Mousai Wellness Center

8 ข้อน่ารู้ เกี่ยวกับคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy)

1. คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) คืออะไร? 

 คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) คือ การกำจัดสารพิษโลหะหนัก ที่เป็นพิษออกจากร่างกาย โดยการโช้กรดอะมิโน EDTA ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถจับสารพิษโลหะหนักแล้วเปลี่ยนให้สารพิษโลหะหนักนั้นละลายในน้ำ แล้วขับออกทางไตและตับได้

สารโลหะหนักที่พบบ่อย ได้แก่ ตะกั่ว สารหนู แคดเมียม อลูมิเนียม ปรอท 

นอกจากนี้ยังช่วยจับแคลเซียมที่กลายเป็นตะกรันในหลอดเลือดที่ตีบหรือแข็ง เช่น ในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจและสมอง ช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัวได้ดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

สารโลหะหนักพบได้จากที่ใดบ้าง ?

หลายคนคิดว่าเรื่องสารโลหะหนัก เช่น ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู และปรอท เป็นเรื่องไกลตัว จึงมองข้ามถึงพิษภัยที่อาจจะเกิดขึ้น แต่จริงๆ แล้ว สารเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว จากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัว

เช่น

พิษตะกั่ว ได้รับจากการกินก๋วยเตี๋ยว(หม้อก๋วยเตี๋ยว), สีทาบ้าน, ควันท่อไอเสีย, ฝุ่น PM2.5

พิษปรอท ได้รับจากปลาทะเล, Vaccine, อมาลกัมที่ใช้ในการอุดฟัน

พิษอะลูมิเนียม ได้รับจากการกินก๋วยเตี๋ยว(หม้อก๋วยเตี๋ยว), ยาลดกรด, ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร, ผลิตภัณฑ์จากขวดสเปรย์

2. การทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) เหมาะกับใคร?

 
  • ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดอุดตัน
  • ผู้มีมีไขมันในเลือดสูง
  • ผู้ที่เคยมีภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ
  • ผู้ที่เคยมีประวัติเป็นอัมพฤกษ์
  • ครอบครัวมีประวัติเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • อุดฟันด้วยโลหะ – อมัลกัม
  • สูบบุหรี่ หรืออยู่ใกล้คนสูบบุหรี ดื่มแอลกอฮอล์มาก

  • ผู้ที่เดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นประจำ หรือบ้านติดถนนใหญ่

  • ทำงานหรืออยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม/ ผลิตภัณฑ์การเกษตร

  • ผู้ที่ชอบทานอาหาร ทะเลเป็นประจำ

  • มีภาวะนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย

  • ผู้ที่ชอบทำสีผม หรือแต่งหน้าเป็นประจำ

3. คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) มี 2 ประเภท

1. Natural chelating agents   

Chlorophyll, Vitamin C, N-Acetyl Cysteine, Methionine, Alpha Lipoic Acid, Cilantro, Pectin, Garlic, Vinegar

2. Synthetic chelating agents

BAL, DMSA, DMPS, CaNa2EDTA, Deferoxamine, Penicillamine

4. คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) มีวิธีและขั้นตอนการทำอย่างไร?

  • ซักประวัติ ก่อนทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy)
  • ตรวจสุขภาพ ตรวจระดับการทำงานของไตและทำการตรวจ Live Blood Analysis เบื้องต้น โดยจะเจาะเลือดปลายนิ้ว 1 หยด แล้วนำมาส่องผ่านกล้องจุลทรรศน์ ที่มีกำลังขยายสูงและส่งภาพผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด และการปะปนของโลหะหนักในเลือด
  • การทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy)ไม่ยุ่งยากคล้าย ๆ การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำทั่วไป โดยในสารน้ำจะเติมสารโปรตีนสังเคราะห์ (EDTA) พร้อมกับผสมวิตามินและแร่ธาตุเข้าไปด้วย ซึ่งสาร EDTA นี่เองที่จะไปจับกับอนุภาคของโลหะหนัก แล้วขจัดออกจากร่างกายทางปัสสาวะ

ขณะทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) ผู้เข้ารับบริการสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เนต อ่านหนังสือ รับประทานอาหาร ฯลฯ

 5. ประโยชน์และผลที่จะได้รับ จากการทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy)

ช่วยล้างหลอดเลือดจากตะกรันแคลเซียมตามผนังหลอดเลือดทั้งในสมองและหัวใจ  จึงช่วยลดการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น

  • ลดอาการหัวใจกำเริบ
  • ลดความดันโลหิต
  • ลดระดับไขมันในเลือด
  • ช่วยให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตทั่วไปดีขึ้น (เส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจ, มือและเท้า)

ช่วยกำจัดสารพิษและ โลหะหนัก กลุ่ม แคดเมียม ตะกั่ว สารหนู อลูมิเนียม ออกจากร่างกาย

ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรค และป้องกันโรคจากความเสื่อมต่าง ๆ เช่น

  • ลดอาการอักเสบของผิวหนัง
  • ลดการเกิดข้ออักเสบ
  • ลดอาการหอบหืด ภูมิแพ้
  • ลดโอกาสเกิดมะเร็ง

ช่วยให้ระบบประสาทการรับรู้ต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น เช่น รู้รสชาติมากขึ้น เห็นภาพดีขึ้น เสียงได้ยินชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่องต่าง ๆ มากมาย เช่น

  • บรรเทาอาการเหน็บชา
  • ระบบการทำงานของปอดดีขึ้น
  • ลดโอกาสสูญเสียอวัยวะ
  • เพิ่มมวลกระดูก
  • คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ดีขึ้น
  • ช่วยให้สมองแจ่มใส ช่วยให้ความจำดี
  • บรรเทาอาการอัลไซเมอร์
  • ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ
  • ช่วยให้อาการอ่อนเพลียเรื้อรังหมดไป

6. คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) ทำได้บ่อยเพียงใด

 

จำนวนครั้งในการทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) ของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ปัญหาด้านสุขภาพ และผลที่ได้หลังทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy)

ภายหลังทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) ของแต่ละคน โดยปกติจะทำประมาณ 10 – 20 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากต้องมีการควบคุมปริมาณยาให้เหมาะสม

8. คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) ควรทำที่ไหน

มูไซ เวลเนส เซ็นเตอร์ (Mousai Wellness Center) มีโปรแกรมการคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการทำคีเลชั่นโดยเฉพาะ พร้อมปรึกษาและฟื้นฟูสุขภาพ และในระหว่างการรักษาได้รับการดูแลจากพยาบาลตลอดการทำคีเลชั่น

มูไซ เวลเนส เซ็นเตอร์ (Mousai Wellness Center) เดินทางมาง่ายและสะดวกสบาย มีที่จอดรถ ซึ่งตั้งอยู่ใน ซอย สุขุมวิท 39 (BTSซอยพร้อมพงษ์)

#Chelation #ChelationTherapy #Detox #Vascular #Tharapy #MousaiWellnessCenter #Wellness #Holistic #MousaiWellness #MousaiWellnessClinic #Wellness #Holistic #antiaging