NAD+ LEVEL
NAD คือ อนุพันธ์ของวิตามิน B3 ที่เป็น cofactor ส่วนสําคัญที่ปฏิกิริยา redox ของเซลล์
ซึ่งมีบทบาทสําคัญ ในกระบวนการสร้างพลังงานภายในเซลล์ ซ่อมแซม DNA ที่เสียหาย และควบคุมการแสดงออกของยีน
ในปัจจุบัน งานวิจัย หลายฉบับได้ศึกษาว่า ระดับ NAD มีความสัมพันธ์กับ ความชรา (Aging) โดยมีการบ่งชี้ว่าระดับของ NAD จะลดลง ตามอายุของสิ่งมีชีวิตที่เพิ่มขึ้น
รวมถึงโรคที่เป็นผลจากความชรา เช่น ภาวะที่ระบบเผาผลาญทํางานผิดปกติ (Metabolic diseases) โรคมะเร็ง โรคความเสื่อมของระบบประสาท (Neurodegenerative diseases)
นอกจากนั้นยังกระตุ้นการทํางานของเอนไซม์ Sirtuins, Poly (ADP-ribose) polymerases (PARPs) และ Cluster of differentiation 38 (CD38) ซึ่งมีบทบาทสําคัญในการรักษาสุขภาพของเซลล์
โดย sirtuins ช่วยปรับระบบเผาผลาญของ เซลล์ รักษาเสถียรภาพของโครโมโซม
ส่วน Poly (ADP-ribose) polymerases (PARPs) เมื่อตรวจจับว่า DNA เกิดความ เสียหายจะทําการเริ่มสังเคราะห์สาย DNA ใหม่ร่วมกับเอนไซม์สังเคราะห์ DNA ชนิดอื่น ๆและตัวที่สําคัญอีกหนึ่งตัวได้แก่ CD38 ซึ่งจะอยู่บนผิวของเซลล์เม็ดเลือดขาวหลายชนิด
เมื่ออายุมากขึ้น CD38 จะเพิ่มขึ้น ส่งผลเสียต่อการทํางานของไมโทคอนเดียซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งผลิตพลังงานของเซล
จะเกิดอะไรขึ้น หากร่างกายของเรามีระดับ NAD+ ต่ำ
ผลการศึกษาหลายฉบับแสดงให้เห็นว่า เมื่อร่างกายของเราแก่ตัวลง จะส่งผลให้ระดับ NAD+ ของเราลดลงตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้ระดับ NAD+ ต่ำลง เช่น โรคอ้วน การบริโภคแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
รวมถึงยังเกี่ยวข้องกับกระบวนการเกิดภาวะผิดปกติของระบบเผาผลาญหลายชนิด เช่น โรคเบาหวาน และ โรคไขมันพอกตับ
การขาด NAD+ ยังส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น
ความอ่อนเพลีย
ระดับ NAD+ ที่ต่ำส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ แม้ว่าจะพักผ่อนเพียงพอก็ตาม เนื่องจาก NAD+ เป็นหนึ่งในตัวช่วยสร้างพลังงานในร่างกายจากระดับเซลล์
ภาวะสมองล้า
การขาด NAD+ ส่งผลให้เกิดภาวะสมองล้า ไม่มีสมาธิ หากรู้ สึกว่าไม่สามารถทํางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนี้อาจมีสาเหตุมาจากระดับ NAD+ ต่ำ
ผิวโทรมและหมองคล้ำ
ระดับ NAD+ ที่เหมาะสมช่วยให้ผิวของคุณดูกระจ่างใส เรียบเนียน ดังนั nน หากพบว่าผิวของคุณดูโทรมและหมองคล้ำ อาจมีสาเหตุมาจากระดับ NAD+ ต่ำ
ภาวะความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
เป็นภาวะที่ สังเกตอาการได้ยาก แต่สามารถสังเกตได้จากอาการบางประเภท เนื่องจากภาวะความเครียดจากปฏิกิริยา ออกซิเดชันมีผลต่อการทําให้เซลล์ โปรตีน และ DNA เสียหาย นําไปสู่ความชราของร่างกาย รวมถึงยังส่งผล ต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมของระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์
อาการนอนไม่หลับ
มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ ตื่นกลางดึก อาการเหล่านี้ อาจเกิดจากภาวะ NAD+ ลดลง การเสริม NAD+ เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มระดับ NAD+
การตรวจวิเคราะห์ NAD LEVEL สามารถตรวจระดับโมเลกุลของ NAD+ และ NADH โดยการตรวจเลือดในเลือด รายงานผลทั้ง NAD+ และ NADH
ความแตกต่างระหว่าง NAD+ และ NADH Nicotinamide adenine dinucleotide (NAD) ใน ปฏิกิริยาการสร้างพลังงานของเซลล์จะอยู่ในสอง รูปแบบ คือ NAD+ และ NADH โดยเมื่อ NAD+ รับอิเล็กตรอนระหว่างปฏิกิริยา Reduction จะเปลี่ยนรูป เป็น NADH เมื่อ NADH เสียอิเล็กตรอนระหว่าง ปฏิกิริยา Oxidation จะเปลี่ยนรูปเป็น NAD+
คําแนะนําในการเพิ่มระดับ NAD+ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็มีส่วนช่วยให้ระดับ NAD+ เพิ่มขึ้น ดังนี้
- การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สารอาหารครบ 5 หมู่ และการจํากัดแคลอรี่
- การปรับวงจรการใช้ชีวิตของร่างกาย เช่น พฤติกรรมการนอนหลับควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหาร การขยับตัว
- การออกกําลังกาย เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ กระดูก, หัวใจ, ปอด, ช่วยฟื้นฟูหัวใจและหลอดเลือด, ลดความเสี่ยงที่จะทําให้เกิด Stroke มะเร็ง ซึ่งการออกกําลังกายเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเผา ผลาญส่งผลให้มีการแสดงออกในกระบวนการสังเคราะห์ NAD+
- การให้สารอาหารทางหลอดเลือด (NAD+ IV Drip)